สำหรับแป้งข้าวไทยเป็นวัตถุดิบพื้นฐานที่หลายครัวเรือนขาดไม่ได้ เพราะมีคุณสมบัติหลากหลาย ใช้งานง่าย และให้รสชาติที่อร่อย แต่การเลือกใช้แป้งข้าวให้เหมาะกับแต่ละเมนูนั้น ก็ส่งผลต่อความอร่อยและความนุ่มของอาหารหรือขนมของเราด้วย บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจโลกของแป้งข้าวไทย พร้อมแนะนำเคล็ดลับการเลือกใช้แป้งข้าวให้เหมาะกับเมนูต่างๆ

แป้งข้าวไทยมีหลายประเภท แต่ละประเภทล้วนมีเอกลักษณ์และคุณสมบัติที่ต่างกัน

1. แป้งข้าวเจ้า

เป็นแป้งที่ทำมาจากเมล็ดข้าวเจ้าบดละเอียด มีลักษณะเป็นผงสีขาวนวล และมีเนื้อหยาบ เมื่อทำให้สุกจะมีลักษณะขุ่นรวน นุ่ม และเป็นเจลอยู่ตัว หากทิ้งให้เย็นจะจับตัวเป็นก้อน แต่ไม่เหนียว จึงนิยมใช้ในการทำขนมไทย เช่น ขนมครก ขนมชั้น ขนมใส่ไส้ ขนมถ้วย เป็นต้น นอกจากนี้ปลาแฟนซีคาร์ฟยังแบ่งผลิตภัณฑ์แป้งข้าวเจ้าออกเป็น 3 ชนิดด้วยกันคือ แป้งข้าวหอมมะลิ แป้งข้าวหอมมะลิกล้องเหลือง และแป้งข้าวไรซ์เบอร์รี  ซึ่งแต่ละชนิดมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน

            แป้งข้าวหอมมะลิ

โดยแป้งข้าวหอมมะลิตราปลาแฟนซีคาร์ฟ แปรรูปมาจากข้าวหอมมะลิแท้ 100%  เนื้อแป้งมีความเนียนละเอียด ผ่านกระบวนการคัดสรรมาจากเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิชั้นเยี่ยมเมื่อนำไปประกอบอาหารทำให้มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของข้าวหอมมะลิ ทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และปราศจากกลูเตน สามารถใช้เป็นส่วนผสมแทนแป้งสาลีได้แบบ 100% และนิยมใช้แป้งหอมมะลิในการทำ เค้ก, วาฟเฟิล, บราวนี่, ชิฟฟอนเค้ก, โดนัท, คุกกี้ และซาลาเปา เป็นต้น

              แป้งข้าวหอมมะลิกล้องเหลือง

แป้งข้าวหอมมะลิกล้องเหลือง ตราปลาแฟนซีคาร์ฟ  แปรรูปจากเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิกล้องเหลืองชั้นเยี่ยม มีเนื้อสัมผัสนุ่มนวล เนียนละเอียด มีสีสันสวยงามและกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังปราศจากกลูเตน สามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมแทนแป้งสาลีได้แบบ 100% จึงนิยมนำแป้งข้าวหอมมะลิกล้องเหลืองผสมกับข้าวหอมมะลิกล้องเหลืองเพื่อทำโจ๊กและข้าวต้ม หรือนำไปผสมกับแป้งสาลีเพื่อทำขนมปัง หรือเส้นพาสต้า นอกจากนี้สามารถนำไปทำเบเกอรี่สำหรับผู้ที่แพ้กลูเตนได้ เช่น เค้กกล้วยหอม, แพนเค้ก, แครกเกอร์ และมัฟฟิน เป็นต้น

                 แป้งข้าวไรซ์เบอร์รี

โดยแป้งข้าวไรซ์เบอร์รี ตราปลาแฟนซีคาร์ฟ แปรรูปมาจากข้าวไรซ์เบอร์รีแท้ 100% ซึ่งปราศจากกลูเตน สามารถใช้เป็นส่วนผสมแทนแป้งสาลีได้ มีลักษณะเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล เนียนละเอียด และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือมีสีสันสวยงาม มีกลิ่นหอมของข้าวไรซ์เบอร์รี จึงนิยมนำไปผสมกับข้าวไรซ์เบอร์รีเพื่อทำโจ๊กและข้าวต้ม หรือนำไปผสมกับแป้งสาลีเพื่อทำขนมปัง ขนมครก,  แครกเกอร์ , เค้ก,มัฟฟิน, คุกกี้ และวาฟเฟิล เป็นต้น

• แป้งข้าวเหนียว

นอกจากตระกูลแป้งข้าวเจ้าแล้วยังมีแป้งข้าวเหนียวที่เป็นแป้งข้าวของไทยด้วย ซึ่งแป้งข้าวเหนียวทำมาจากเมล็ดพันธุ์ข้าวเหนียว มีลักษณะเป็นผงสีขาว มีผิวสัมผัสทำให้รู้สึกสากมือเล็กน้อย เมื่อแป้งถูกความร้อนจะมีสีขุ่นข้น และจับตัวเป็นก้อนค่อนข้างเหนียว เนื่องจากมีส่วนประกอบของอะมิโลสน้อย นิยมนำแป้งข้าวเหนียวไปทำ ขนมต้ม, ขนมถั่วแปบ, ขนมเทียน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแป้งข้าวเหนียวดำที่เป็นแป้งตระกลูแป้งข้าวเหนียวด้วย มีทั้งสารอาหารและคุณสมบัติที่สามารถนำไปใช้ประกอบอาหารหรือทำขนมได้

โดยแป้งข้าวเหนียวตราปลาแฟนซีคาร์ฟ แปรรูปจากเมล็ดข้าวพันธุ์ข้าวเหนียว 100% ซึ่งปราศจากกลูเตน และผ่านกระบวนการโม่น้ำ ทำให้เนื้อแป้งมีความเนียนนุ่มยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับใช้ทำอาหารหรือขนมที่ต้องการความเหนียวเกาะตัวได้ดี เช่น ขนมบัวลอย, ขนมต้ม, ขนมถั่วแปบ, ขนมเข่ง เป็นต้น นอกจากนี้สามารถผสมกับแป้งแป้งท้าวสำหรับทำขนมบ้าบิ่น รวมถึงทำกาละแมได้ด้วย

         แป้งข้าวเหนียวดำ

แป้งข้าวเหนียวดำ ตราปลาแฟนซีคาร์ฟ แปรรูปมาจากเมล็ดพันธุ์ข้าวเหนียวดำ 100%  มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล เนียนละเอียดเป็นพิเศษ มีกลิ่นหอม และมีสีสันจากข้าวเหนียวดำเป็นเอกลักษณ์ ทำให้อาหารหรือขนมมีสีสันสวยงาม น่ารับประทาน และยังมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมากมาย จึงนิยมนำไปใช้ทำขนมบัวลอย,ขนมเทียน, ขนมถั่วแปบ,ขนมนมโคกะทิสด, ขนมต้ม นอกจากนี้สามารถผสมกับแป้งท้าวสำหรับทำขนมบ้าบิ่น และอีกหลากหลายเมนู

ไม่ว่าจะเป็นตระกูลแป้งข้าวเจ้า หรือแป้งข้าวเหนียว ก็ล้วนเป็นวัตถุดิบที่มีคุณสมบัติหลากหลาย ดังนั้น การเลือกใช้แป้งให้ตรงกับลักษณะของเมนู จะช่วยเสริมรสชาติและความอร่อยให้กับอาหารได้ นอกจากนี้แป้งข้าวไทย ตราปลาแฟนซีคาร์ฟ ยังเป็นตัวเลือกเพื่อสุขภาพที่ดี ปราศจากเคมีและกลูเตนสามารถนำไปทำอาหารและเบเกอรี่สำหรับผู้ที่แพ้กลูเตนได้ เพื่อให้คุณสร้างสรรค์เมนูอร่อยๆ จากแป้งข้าวไทยได้อย่างอิสระ